Mapo Bridge
ต้องบอกเลยว่านักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนไม่น้อยเลยนั้นชื่นชอบในการเดินทางมาท่องเที่ยวเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศที่สวยงามเเละร่ำรวยไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจรวมทั้งเรื่องของวัฒนธรรมที่ชาวไทยนั้นต่างชื่นชอบกันอย่างมากเลยทีเดียว เเละสำหรับอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยงที่เราอยากจะเเนะนำให้ลองไปเที่ยวชมให้ได้หากว่ามีโอกาสไปเที่ยวยังเกาหลีเเล้วก็คือที่
สะพานมาโป ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อาจจะเเปลกซักนิดเเละมีกลิ่นอายของความเสียวสันหลังอยู่ด้วย เเต่ก็นับว่าน่ามาลองเที่ยวชมดูซักครั้ง
|
ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/ |
|
ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/ |
Mapo Bridge นั้นเป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างย่านยงกังดง เเละย่านยออีโด โดยเเต่เดิมนั้นชื่อว่า สะพานโซล เเละมีชื่อเสียงอย่างมากว่าเป็นสะพานที่มีชาวเกาหลีมาฆ่าตัวตายอย่างมากเป็นอันดับหนึ่ง จนเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนสะพานเเห่งนี้ให้มีความสวยงามเพื่อวัตถุประสงค์ในการลดจำนวนการฆ่าตัวตายลง เเละกลายมาเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจขึ้นมาอีกเเห่งของกรุงโซล
|
ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/ |
|
ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/ |
|
ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/ |
ความยาวของ สะพานมาโป นั้นมีความยาว 1.4 กิโลเมตร เเละมีความกว้างประมาณ 25 เมตร สามารถเป็นถนนได้ 6 เลนด้วยกัน โดยเเบ่งด้านละสามเลน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 2 ปี เเละเเล้วเสร็จในปี ค.ศ.1970 เป็นสะพานเเห่งที่สี่ที่สร้างข้ามเเม่น้ำฮัน เนื่องจากโครงสร้างของสะพานที่ดูทึบเเละไม่ค่อยจะมีความสวยงาม รวมทั้งการเป็นสะพานข้ามเเม่น้ำฮันที่เงียบสงบ ทำให้เป็นเเรงกระตุ้นให้มีชาวเกาหลีที่มีความเครียดในการใช้ชีวิตมาทำการฆ่าตัวตายที่สะพานเเห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นสถิติอันดับหนึ่งของประเทศเกาหลี เเละสร้างเรื่องราวน่าหวาดกลัวให้เกิดขึ้นบนสะพานเเห่งนี้
|
ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/ |
|
ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/ |
จากปัญหาเรื่องราวของการฆ่าตัวตายที่ Mapo Bridge ทำให้ Samsung Life Insurance เเละ Cheil Worldwide ได้รับผิดชอบโปรเจคจากกรุงโซลให้มาปรับเปลี่ยนสภาพเเวดล้อมของสะพานเเห่งนี้ใหม่ โดยได้มีการติดตั้งระบบไฟที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงอย่างมากในการจับความเคลื่อนไหวของคนที่อยู่บนสะพานเเละมีการปรับเปลี่ยนไฟเป็นเเบบสีสันที่ทำให้มีผลกับจิตใจในเชิงของการให้กำลังใจ ทำให้สะพานเเห่งนี้กลายเป็นสะพานอัจฉริยะที่เหมือนมีชีวิตขึ้นมา เเละทำให้กลายเป็นเเหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตขึ้นมาเลย
คุณสามารถเดินทางมายัง
สะพานมาโป โดยใช้บริการของรถไฟใต้ดินสาย 5 โดยให้คุณมาลงที่สถานี Yeouinaru Station เเล้วเลือกทางออกที่ 2 จากนั้นก็ให้คุณเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที ก็จะถึงเเล้ว นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกและน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ติดตาม
สถานที่เที่ยวเกาหลี
No comments: