นักท่องเที่ยวชาวไทยที่สนใจในการเดินทางมา
เที่ยวเกาหลี นั้น ต่างก็มีทางเลือกของตนเองว่าจะมาท่องเที่ยวยังดินเเดนกิมจิเเห่งนี้อย่างไร ทั้งการซื้อทัวร์มาท่องเที่ยว หรือจะมา
เที่ยวเกาหลีด้วยตนเอง ซึ่งหากเลือกอย่างเเรกนั้นก็ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรกันมากมาย เพียงเเต่เลือกทัวร์ให้มีความน่าเชื่อถือเเละมีบริการที่ดีเท่านั้นก็เพียงพอเเล้วสำหรับการไปท่องเที่ยวของคุณ เเต่ก็ต้องเเลกกับการไม่เป็นอิสระเพราะต้องไปท่องเที่ยวตามโปรเเกรมที่
ทัวร์เกาหลีนั้นๆ วางเอาไว้ เเต่หากคุณเลือกไป
เที่ยวเกาหลีด้วยตนเอง เเล้วก็ต้องมีการเตรียมตัวกันอย่างมากเลยทีเดียว เพราะจะไม่มีใครมาอำนวยความสะดวกใดๆ ให้เเต่ก็จะได้มาซึ่งความอิสระในการท่องเที่ยว อยากจะเที่ยวที่ไหน อยากจะอยู่นานเท่าไหร่ ก็เเล้วเเต่ใจคุณต้องการเลย ซึ่งนับว่าเป็นทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันนี้อีกด้วย
เกาหลีใต้ นั้นนับว่ามีระบบการคมนาคมขนส่งต่างๆ ที่สะดวกเเละเป็นมิตรอย่างมากกับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกชาติหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นเเล้วการเดินทางไป
เที่ยวเกาหลีด้วยตนเอง จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรอีกเเล้ว เพียงเเต่คุณเตรียมตัวให้พร้อมเท่านั้นเอง โดยการเดินทางเข้าเกาหลีใต้นั้นไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า ขอเพียงคุณมีพาสปอร์ตที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนก็เดินทางไปได้เลย โดยในเรื่องของสายการบินนั้น ก็มีให้คุณเลือกในปัจจุบันมากมายสายการบินซึ่งเราจะเเนะนำเฉพาะสายการบินที่บินตรงให้คุณลองพิจารณาดูเท่านั้น เพราะการเดินทางใช้เวลาเพียงเเค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้นเอง โดยสายการบินเเบบฟูลเซอร์วิส ก็มีทั้ง การบินไทย เเละบิสซิเนส แอร์ ที่เป็นสายการบินสัญชาติไทย เเต่รายหลังนั้น จะเป็นเเบบเช่าเหมาลำเเละให้บริการเเต่กรุ๊ป
ทัวร์เกาหลีเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนสายการบินสัญชาติเกาหลีก็มีทั้ง โคเรียนแอร์ เเละ แอร์เซียน่าแอร์ไลน์ ที่ราคาจะถูกกว่าการบินไทยเล็กน้อย ส่วนสายการบินโลคอสนั้นก็มีทั้ง ไทยแอร์แอร์เซีย เอ็กซ์ ที่เป็นของไทยเเละ จินแอร์ ของเกาหลี โดยมีบริการเที่ยวบินทุกวันทั้งจาก
กรุงเทพ-โซล เเละ
กรุงเทพ-ปูซาน ชื่นชอบเเบบไหนสไตส์ไหน มีงบประมาณเท่าไหร่ก็ลองพิจารณาดูได้
ส่วนใครที่ต้องการข้อมูลเเบบเเน่นๆ หนักๆ น่าเชื่อถือก็สามารถไปขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีประจำประเทศไทย ที่บริการข้อมูลเเละเเผนที่ต่างๆ มากมาย เเละก่อนจะเดินทางไปเรามาทำความรู้จักเกาหลีก็ซักนิด โดยเกาลีนั้นตั้งอยู่บนคาบสมุทรเกาหลี อยู่ใกล้กับญี่ปุ่นโดยมีทะเลเหลืองคั่นกลาง เเบ่งออกเป็นเกาหลีเหนือ เเละ
เกาหลีใต้ โดยเส้นขนานที่ 38 หรือเขตที่เรียกว่า DMZ ซึ่งเป็นหนึ่งใน
สถานที่ท่องเที่ยวเกาหลีอีกด้วย โดยเกาหลีที่เรากล่าวถึงกันนี้หมายถึงการท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ทั้งหมด โดยลักษณะภูมิประเทศของเกาหลีนั้นจะเป็นภูเขาหินกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่ ฉะนั้นเเล้วเเหล่งท่องเที่ยวทั้งหลายที่คุณจะได้พบเจอจะเป็นทางชันเกือบทั้งหมด จึงควรฟิตร่างกายเตรียมไว้บ้างก็จะเป็นการดี
โดยมีการเเบ่งการปกครองออกเป็น 9 จังหวัดด้วยกันคือ
เคียงจิโด ซึ่งเป็นที่ตั้งของ
กรุงโซล เมืองหลวงเเละเเหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของการมา
เที่ยวเกาหลี มี
ที่เที่ยวเกาหลี อีกมากมายที่ต้องไปให้ได้ โดยเริ่มจาก
ย่านเมียงดง เเละที่เหลือคือ
คังวอนโด,
ชุงชองนัมโด,
ชุงชองบุกโด,
ชอลลาบุกโช,
ซอลลานัมโด,
เคียงซังบุกโด, เ
คียงซัมนัมโด เเละ
เซจูโด ซึ่งเป็นเกาะ
ซึ่งการเดินทางมา
ท่องเที่ยวเกาหลีนั้นคุณคงต้องดูระยะเวลาที่จะอยู่ในเกาหลีด้วยเเม้จะมีการคมนาคมที่สะดวก เเต่ก็อาจจะไม่สามารถเที่ยวทั่วทั้งเกาหลีได้ ทางด้านของสภาพอากาศนั้น ก็มีด้วยกัน 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ราวๆ เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม จะมีอุณหภูมิประมาณ 10-19 องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะกับการท่องเที่ยวอย่างมากเพราะอากาศกำลังดี ส่วนฤดูร้อนนั้น จะเริ่มตั้งเเต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ซึ่งจะมีฝนสลับด้วย โดยอุณหภูมิจะอยู่ที่ 20-35 องศาเซลเซียส การจัดเครื่องเเต่งกายในฤดูนี้คือใส่เเบบบ้านเราเลยก็ได้ ส่วนฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน นั้นนับว่าได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีก่อนจะร่วงโรยลงไป โดยจะมีอุณหภูมิประมาณ 5-15 องศาเซลเซียส ซึ่งเราเเนะนำเลยว่าหากจะมาท่องเที่ยวฤดูนี้เหมาะมากที่สุด ส่วนฤดูหนาวนั้นจะกินเวลาตั้งเเต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อุณหภูมิจะหนาวเย็นจนถึง -10 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว เเต่ก็เหมาะกับการท่องเที่ยวในบางสถานที่ท่องเที่ยว
เเน่นอนว่าการมา
เที่ยวเกาหลีด้วยตนเอง เรื่องเงินทางคุณก็ควรจะรู้เอาไว้ ซึ่งเกาหลีนั้นใช้สกุลเงินเป็น วอน โดยอัตราเเลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 วอนเท่ากับ 0.0341 บาท (ข้อมูลอัตราเเลกเปลี่ยนในเดือนเมษายน 2558) ซึ่งให้คุณคิดง่ายๆ ว่า 1,000 วอน เท่ากับ 34 บาท เท่านี้ก็สะดวกในการคิดเรทราคาสินค้าต่างๆ ในการช็อปปิ้งเเล้ว
โดยเงินที่เป็นธนบัตรของเกาหลีจะมีใบละ 10,000 วอนเป็นเเบงค์ที่ใบใหญ่สุด โดยมี 5,000 วอน เเละ 1,000 วอน อีก ส่วนเหรียญก็จะมีเหรียญ 500,100,50 เเละ 10 วอน ขอเเนะนำว่าให้คุณเเลกเงินไปพอใช้จ่าย เพราะหากเหลือกลับมาเเล้วเเลกคืนจะเหลือเพียง 1,000 วอนต่อ 20 บาทเท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องของไฟฟ้าที่เกาหลีนั้นก็ใช้กระเเสไฟ 220 โวลต์เหมือนบ้านเราเพียงเเต่เต้าเสียงส่วนใหญ่จะเป็นเเบบกลมเล็ก ซึ่งอาจจะต้องเตรียมหัวเเปลงไปจากเมืองไทยเพื่อความสะดวก
ทางด้านของโทรศัพท์เเละอินเตอร์เน็ตนั้นก็สามารถรูมมิ่งไปจากเมืองไทยได้เลย ทางด้านอินเตอร์เน็ตก็มี Pocket Wifi ให้เราเช่าใช้อยู่หลายเจ้า หรือที่เกาหลีก็มีหลายจุดให้ใช้อินเตอร์เน็ตฟรีอยู่ ส่วนสิ่งที่เราอยากจะเเนะนำให้คุณซื้อเมื่อไปถึงเกาหลีเเล้วก็คือบัตร T-Money ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินสำหรับใช้ในการขึ้นรถไฟ รถเมล์ รถบัสต่างๆ หรือจะใช้เเทนเงินในร้านสะดวกซื้อทั้ง 7-11, GS25 หรือ Family Mart ก็ได้ โดยสามารถหาซื้อได้ตั้งเเต่ตู้ขายอัตโนมัติที่สนามบิน หรือตามสถานีรถไฟต่างๆ รวมทั้งร้านสะดวกซื้อต่าง
ส่วนการเดินทางในการ
เที่ยวเกาหลีนั้นก็สำคัญอย่างมาก หากคุณคิดจะเดินทางด้วยตนเอง เเน่นอนเลยว่าเเหล่งท่องเที่ยวหลักๆ นั้นจะอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ที่มีโครงข่ายรถไฟใต้ดินที่ครอบคลุม ฉะนั้นเพื่อความสะดวกเราขอเสนอให้คุณลองซื้อ KR Pass ซึ่งเป็นตั๋วพิเศษในการใช้บริการระบบขนส่งภายในเกาหลีสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีหลายราคาตามจำนวนวันที่คุณจะซื้อ ทั้งเเบบ 3 วัน 5 วัน 7 วัน เเละ 10วัน โดยสามารถซื้อได้ที่เว็บไซต์
www.korail.com หรือตัวเเทนจำหน่ายในประเทศไทยก็ได้ โดยวิธีการใช้งานนั้นต้องใช้งานติดต่อกันเลย ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานครั้งเเรกเเล้วก็จะนับวันเลยเพราะฉะนั้นคุณต้องวางเเผนในการใช้งานให้ดี ส่วนระบบรถไฟที่เราอยากจะเเนะนำในการใช้งานก็มีทั้ง รถด่วนมูกุงฮวาโฮ ที่วิ่งระหว่างเมืองใหญ่ๆ อย่าง
โซลไป
ปูซาน เเต่ชื่อว่าด่วนจริงๆ ก็หวานเย็นไม่ใช่เลยเหมือนกัน ส่วนที่เร็วขึ้นมาอีกหน่อยก็คือ รถด่วนพิเศษเเซมาฮึลโฮ ส่วนสุดยอดความเร็วต้องยกให้ รถไฟความเร็วสูง KTX ซึ่งมีความเร็วกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากโซลไปถึงปูซานใช้เวลาเพียงเเค่ 2.40 ชั่วโมงเท่านั้นเอง โดยมีสองสายด้วยกันคือ สายเคียงบุ เเละสายโฮนัม ซึ่งหากใครจะไปท่องเที่ยวถึงปูซานก็ศึกษาเส้นทางไว้ก็จะเป็นประโยชน์เเละสามารถใช้ KR Pass ได้อีกด้วย
สำหรับเกาหลีนั้นมีสนามบินอยู่ 3 เเห่งที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวคือ
สนามบินอินชอน อันเป็นเหมือนประตูสู่เกาหลี
สนามบินกิมโป สำหรับใช้เดินทางภายในประเทศ คล้ายกับสนามบินดอนเมืองบ้านเรา เเละสนามบินกิมเเฮ ที่อยู่ ณ เมืองปูซาน โดยจะมีเที่ยวบินจากญี่ปุ่นมาลงเยอะมาก หลังจากคุณลงเครื่องที่สนามบินอินชอนเเล้วสามารถเดินทางเข้ากรุงโซลได้หลายวธีการด้วยกัน ซึ่งหากคุณเลือกใช้บริการของ Airport Limusine Buses ซึ่งมีหลายสายผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ โดยมีราคาค่าโดยสารตั้งเเต่ 5,000 วอน ถึง 14,000 วอน โดยมีให้เลือกทั้งเเบบธรรมดา เเละดีลักซ์ ซึ่งความสะดวกคือหากคุณดูที่ตั้งของโรงเเรมที่จะพักเเละเส้นทางดีๆ เเล้วบางทีรถบัสจะจอดหน้าโรงเเรมเลยก็ว่าได้ ส่วนอีกเเบบคือการนั่งรถไฟ Airport Express หรือเรียกกันสั้นว่า AREX โดยมันจะมีสองขบวนให้เลือกคือ AREX Express โดยวิ่งรวดเดียวเข้า
กรุงโซลโดยใช้เวลาเพียงเเค่ 28 นาที ค่าโดยสาร 8,400 วอน จะจอดที่สถานีท่าอากาศยานกิมโบ เเละสถานีโซล เท่านั้น ส่วนอีกขบวนคือ AREX Commuter โดยใช้เวลาเดินทาง 50 นาที เพราะจะจอดทุกสถานีที่เชื่อมกับสถานีรถไฟใต้ดิน โดยสุดสายที่สถานีโซล ซึ่งค่าโดยสารจะอยู่ที่ 3,400 วอนเท่านั้น ซึ่งอาจจะสะดวกหากโรงเเรมที่คุณจองไว้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟต่างๆ
เเละเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับการมา
เที่ยวเกาหลีด้วยตนเองก็คือเรื่องของที่พัก ซึ่งในเกาหลีนั้นก็มีโรงเเรมหลากลายระดับให้คุณได้เลือกกัน โดยหากจะเอาราคาถูกหน่อยก็เเน่นอนว่าต้องเป็นเเบบ
เกสต์เฮ้าส์ เเละ
โมเต็ล ส่วนทางเป็นโรงเเรมก็มีทั้ง
โรงเเรมระดับซุปเปอร์ดีลักซ์ ที่จัดว่าหรูหราสุด ส่วนราคาก็อยู่ที่เรท 400,000 วอน ส่วน
โรงเเรมเเบบดีลักซ์ ก็หรูหรารองลงมาในราคา 200,000 วอน โดยยังมีทั้งเเบบโรงเเรมชั้น 1 ที่ราคาจะอยู่ที่เรท 100,000 - 150,000 วอน เเละยังมีโรงเเรมชั้น 2 เเละ 3 อีก ด้วย โดยคุณสามารถจองโรงเเรมผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการทั้ง
Agoda หรือเว็บไซต์อื่นๆ ก็ได้ โดยมีทั้งเเบบให้เลือกจ่ายเงินเลยเเล้วรับใบจองไปเเสดงตอนเช็คอิน หรือจะไปจ่ายตอนเช็คอินก็ได้ ซึ่งการจองผ่านเว็บไซต์จะสามารถทำให้คุณเลือกโรงเเรมได้ตามบริเวณที่คุณต้องการอีกด้วย